หลังจากที่ห่างหายกันไปนาน วันนี้แอดได้นำข่าวสารวงการรถจักรยานยนต์ไทย กับบริษัทสองค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง ฮอนด้า และ ยามาฮ่า ที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ และทำการยืนยันแล้วว่าทั้งสองค่ายนั้นจะร่วมพัฒนารถจักรยานยนต์ EV ร่วมกัน “โดยฮอนด้าจะอยู่ในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์ OEM” แต่การที่ทั้งสองค่ายนั้นตัดสินใจบรรลุเงื่อนไขข้อตกลงร่วมกัน แน่นอน! ต้องมีที่ไปและที่มา รวมทั้งเราที่เป็นผู้บริโภคจะมีเอฟเฟคหรือต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างหากโลกเราเข้าสู่ยุครถไฟฟ้าจริงๆ อย่างเต็มตัว
นี่ถือว่าเป็นสัญญาณของรถประเภท EV หากเราลองมองภาพรวมทุกวันนี้เราทุกคน หรือแม้แต่เพื่อนๆ เองก็ยังต้องใช้น้ำมันอยู่ หรือพูดอย่างสั้นมันก็คือ “ทรัพยากรที่รอวันหมด” ซึ่งทรัพยากรรวมถึงต้นทุนในการผลิตต่างๆ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก! ก็อย่างที่เราเข้าใจถึงแม้ว่าโลกของเราจะมีการผลิตเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดทรัพยากรต่างๆ มากเพียงใด ซึ่งมันอาจจะช่วยยืดระยะเวลาได้ แต่สุดท้ายมันก็ต้องหมดไปในท้ายที่สุด เมื่อมองภาพในลำดับถัดมา การพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกที่สำคัญในการลดการใช้ทรัพยากรน้ำมัน และช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับความขาดแคลนในอนาคต ที่สำคัญเลยช่วยลดมลพิษให้กับโลกของเราได้อีกด้วย
เพื่อนๆ หลายคนอาจสงสัยนะครับว่า ทำไมอยู่ดีๆ คู่แข่งเขาถึงมาจับมือกัน? แต่ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องแปลก! ใช่ไม่แปลกครับ เพราะในยุคสมัยที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็วจนบางทีเราเองยังรู้สึกว่าตามไม่ทันเหมือนกัน บริษัทใหญ่ๆ เขามักจะมองหาวิธีการใหม่ๆ รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ ยิ่งเป็นเรื่องของรถไฟฟ้าด้วยแล้ว ยิ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยี แบตเตอรี่ หรือแม้กระทั่งโครงสร้างเองก็ตาม เพราะนอกจากจะประหยัดต้นทุนลดลงแล้ว ยังทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้ประสบความสำเร็จได้ไวอีกด้วย
มันก็สืบเนื่องมาจากเมื่อราวๆ ปี 2017 บริษัทยักษ์ใหญ่ทางฝั่งประเทศญี่ปุ่นทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ฮอนด้า คาวาซากิ ซูซูกิ และยามาฮ่า เขาก่อตั้งกลุ่ม Swappable Battery Consortium ซึ่งวัตถุประสงค์หลักๆ ของกลุ่มนี้ก็คือการพัฒนาอุตสาหกรรมรถจักรยายนต์ หรือแบบที่เราเข้าใจง่ายมันก็คือระบบแบตเตอรี่ที่เขาต้องการพัฒนามัน เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้กับทั้งสี่ค่าย สำหรับรถไฟฟ้าขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดกลาง และพาหนะประเภทอื่นๆ
และที่ไปที่มานี้แหละครับที่ทำให้ Honda และ Yamaha มาจับมือร่วมกันพัฒนารถ EV โดยเขาจะใช้โมเดลของ Honda EM1 e: และ BENLY e: I ซึ่งฮอนด้าจะเป็นซัพพลายให้กับ Yamaha ในฐานะ OEM หรือที่ราเข้าใจง่ายอีกเช่นเคยคือ ยามาฮ่า เขาจะเอาทั้ง 2 รุ่นที่ว่านี้ไปพัฒนาต่อและทำการออกแบบใหม่เพื่อขายสู่ท้องตลาดต่อไปนั่นเอง แต่เป็นแบรนด์ Yamaha นะ? ซึ่งไม่ใช่แค่ ฮอนด้า หรือ ยามาฮ่า เท่านั้น! นะครับที่ทำการพัฒนารถ EV ในหลายๆ ค่ายอื่นเองก็ทำการแข่งขันกันอย่างดุเดือดไม่แพ้กัน
คำถามสำหรับเราหรือผู้บริโภค?
จากความสงสัยคือ อนาคตเราจะได้ขับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากันจริงจังหรือไม่? คำตอบคือ อาจจะใช่! แต่ก็คิดว่านี่คงเป็นสัญญาณ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่จะเห็นเมืองไทยเราใช้รถไฟฟ้าอย่างเต็มตัวแทนที่มอเตอร์ไซค์น้ำมันทั้งหมด ก็คงจะใช้เวลาอีกหลายปี แต่ก็ไม่นานจนเกินไปหากผู้บริโภคอย่างเราได้ลองใช้แล้วกับพบว่า มันช่วยประหยัดเซฟค่าใช้จ่ายของเราลงไปได้อย่างมากอีกทั้งมันยังสะดวกสบายมากกว่า แอดก็คงคิดว่าไม่นานนักที่รถไฟฟ้าจะมาแรงแซงรถน้ำมัน รวมถึงเทรนด์การแต่งรถไฟฟ้าก็ต้องมา
ที่น่าสนใจคือ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน หรือระบบนำทางต่างๆ ซึ่งมันสอดคล้องกับเทคโนโลยีของเราในทุกวันนี้รวมถึงคน Gen ใหม่ๆ ในการเลือกบริโภคสิ่งของที่เข้ากับภาพลักษณ์ไลฟ์สไตล์ตัวเองมากกว่าสิ่งใด ไม่ช้าไม่นานเราอาจจะได้เห็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าวิ่งเต็มท้องถนนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ก็เป็นได้!
ระหว่างนี้เราทำอะไรได้บ้าง? นี่เลยครับ ใครที่กำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์อยู่ ทั้งฟรีดาวน์ ฟรีของแถม ผ่อนสบาย มีรถให้เลือกทุกรุ่นทุกสี ที่สำคัญทุกอาชีพสามารถรถออกได้หมด! มีทีมงานที่น่ารักคอยต้อนรับและบริการเพื่อนๆ แบบถึงใจ! แต่ไม่ถึงตัว! กับ พรนุภาพมอเตอร์ไบค์ จำกัด ทุกการออกรถเป็นเรื่องง่าย สะดวก ปลอดภัย พร้อมเซอร์วิส และบริการหลังการขายด้วยทีมงานมืออาชีพ.
ติดตามข่าวสาร : https://www.pornnuphap.com/
#มอเตอร์ไซค์ #ฮอนด้า #พรนุภาพมอเตอร์ไบค์ #มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
